การสอนตามรูปแบบที่ 1 (Infusion Instruction)
และรูปแบบที่ 2 (Parallel Instruction)
มี 2 วิธีคือ
วิธีที่หนึ่ง เลือกหัวเรื่อง (Theme) ก่อนแล้วดำเนินการพัฒนาหัวเรื่องให้สมบูรณ์ มีกำหนดวัตถุประสงค์ของกิจกรรมให้ชัดเจน
กำหนดแหล่งข้อมูลหรือทรัพยากรที่จะใช้ในการค้นคว้าและเรียนรู้และพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนและอื่นๆ ตามลำดับ
วิธีที่สอง
เลือกจุดประสงค์รายวิชาจาก 2 รายวิชาขึ้นไปก่อน แล้วนำมาสร้างเป็นหัวเรื่อง (Theme) ที่ร่วมกันระหว่างจุดประสงค์ที่เลือกไว้กำหนดแหล่งข้อมูลหรือทรัพยากรที่ใช้ในการค้นคว้าและเรียนรู้และพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนและอื่นๆ ตามลำดับ
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วิธีที่หนึ่ง
เลือกหัวเรื่องก่อน
ขั้นที่ 1
เลือกหัวเรื่อง (Theme) โดยวิธีต่อไปนี้
1. ระดมสมองของครูและนักเรียน
2. เน้นที่การสอดคล้องกับชีวิตจริง
3. ศึกษาเอกสารต่างๆ
4.
ทำหัวเรื่องให้แคบลงโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงความสะดวกในการเชื่อมโยงระหว่างวิชาความรู้ และความสนใจของนักเรียน
ขั้นที่
2 พัฒนาหัวเรื่อง (Theme) ดังนี้
1.
เขียนวัตถุประสงค์โดยกำหนดความรู้และความสามารถที่ต้องการ จะให้เกิดแก่ผู้เรียน
เขียนวัตถุประสงค์ในลักษณะที่จะช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างวิชา กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่กิจกรรม
2.
กำหนดเวลาในการสอนให้เหมาะสมกับกำหนดเวลาต่างๆ ตามปฏิทินของโรงเรียน เช่น
จำสอนเมื่อใด ใช้เวลาเท่าไร ยืดหยุ่นได้หรือไม่
ต้องใช้เวลาออกสำรวจหรือทำกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือไม่ ฯลฯ
3.
จองเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการกระทำกิจกรรม
ขั้นที่
3 ระบุทรัพยากรที่ต้องการ ควรคำนึงถึงทรัพยากรที่หาได้ง่าย แล้วติดต่อแหล่งทรัพยากร
ขั้นที่ 4 พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน ดังนี้
1.
พัฒนากิจกรรมที่ช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงกับเนื้อหาวิชาอื่น
2. ตั้งจุดมุ่งหมายของกิจกรรมให้ชัดเจน
3. เลือกวิธีที่ครูวิชาต่างๆ
จะทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างวิชา
4. เลือกวิธีการสอนที่จะใช้
5. สร้างเอกสารแนะนำการปฏิบัติกิจกรรม
6.
สิ่งที่ครูควรจะต้องเตรียมล่วงหน้าอาจประกอบด้วยสิงต่อไปนี้
- ใบความรู้
- ใบงาน
- แบบบันทึก
(ซึ่งอาจเป็นแบบที่ครูออกแบบให้เลย
หรืออาจเป็นแบบบันทึกที่นักเรียนจะต้องช่วยกันออกแบบก็ได้)
- สื่อและอุปกรณ์อื่นๆ
- แบบประเมิน
- ฯลฯ
- พยายามปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ แต่อาจปรับกิจกรรมตามความสนใจของนักเรียน
-
ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดหน่วยการเรียน
- ร่วมมือกับครูคนอื่น มีการพบกันเป็นระยะเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้า
ขั้นที่ 6
ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน
โดยครูควรกระทำตลอดเวลาเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงงานครูอาจให้นักเรียนประเมินผลตนเองก็ได้ครูควรใช้วิธีประเมินผลที่หลากหลายและให้สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง เช่น
สังเกตวิธีการและขั้นตอนในการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตรวจผลงาน ทอสอบ
ประเมินจากการนำเสนอรายงานหรือผลงานของนักเรียน
ประเมินจากการนิทรรศการของนักเรียน
การสัมภาษณ์นักเรียน ฯลฯ
ขั้นที่ 7
ประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน
โดยครูสำรวจจุดเด่น-จุดด้อย
ของกิจกรรม
แล้วบันทึกไว้เพื่อนำไปปรับปรุง
ขั้นที่ 8
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างครูด้วยกันเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนากิจกรรมในครั้งต่อๆไป
วิธีที่สอง
เลือกจุดประสงค์การเรียนรู้ก่อน
ขั้นที่ 1
เลือกจุดประสงค์การเรียนรู้จาก
2 รายวิชาขึ้นไปที่จะนำมาบูรณาการกันโดยจะต้องพิจารณาว่าจุดประสงค์นั้น
ๆ เกี่ยวข้องกันหรือไม่ และเกี่ยวข้องกันอย่างไร ถ้าหากมีความสัมพันธ์เกี่ยวกันหรือไปด้วยกันได้
จึงนำมาบูรณาการกัน
ขั้นที่ 2
นำจุดประสงค์ดังกล่าวในขั้นตอนที่
1 มาสร้างเป็นหัวเรื่อง (Theme) ที่ร่วมกันระหว่างจุดประสงค์ที่เลือกไว้
ขั้นที่ 3
ระบุทรัพยากรที่ต้องการ
ขั้นที่ 4
พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นที่ 5
ดำเนินการตามกิจกรรมการเรียนการสอนที่เตรียมไว้
ขั้นที่ 6
ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน
ขั้นที่ 7
ประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นที่ 8
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างครูด้วยกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น