การประกันคุณภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๔๕
พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดให้มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาขึ้น
เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทุกระดับ ทั้งในระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา
และอุดมศึกษา
๑. ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
วัตถุประสงค์สำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา
คือ การพัฒนาการศึกษาให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน
เมื่อมีระบบประกันคุณภาพและมีการประเมินคุณภาพ
ย่อมทำให้ทราบระดับคุณภาพของสถานศึกษาในการดำเนินภารกิจด้านต่างๆ
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
และทำให้ทราบความก้าวหน้าในการพัฒนาคุณภาพ ของสถานศึกษา
ตลอดจนทำให้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพที่เปิดเผยเป็นรายงานต่อสาธารณชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นกระบวนการที่ประกอบด้วย
การควบคุมคุณภาพ การตรวจสอบคุณภาพ และการประเมินคุณภาพ ดังนี้
การควบคุมคุณภาพ
เป็นการจัดระบบและกลไกสำหรับควบคุมคุณภาพภายในสถานศึกษา
การตรวจสอบคุณภาพ
เป็นการตรวจสอบดูแลระบบและกลไกที่จัดไว้ เช่น ตรวจสอบหน่วยงาน กระบวนการ
และระเบียบข้อบังคับ ที่วางไว้
การประเมินคุณภาพ เป็นการตัดสินว่า
คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดนั้นอยู่ในระดับใด มีจุดเด่น และจุดด้อย
ที่ควรปรับปรุงแก้ไขในเรื่องใด
การประกันคุณภาพการศึกษาอาจจำแนกได้เป็น
๒ ส่วน คือ การประกันคุณภาพภายใน และการประกันคุณภาพภายนอก
๑) การประกันคุณภาพภายใน
เป็นกระบวนการประกันคุณภาพการศึกษาที่ดำเนินการภายในสถาบันอุดมศึกษา
โดยสถาบันอุดมศึกษาเป็นผู้ดำเนินการเอง
๒) การประกันคุณภาพภายนอก
เป็นการดำเนินการตรวจสอบและประเมินคุณภาพทั้งระบบ
โดยหน่วยงานภายนอก คือ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา
(องค์การมหาชน) หรือ สมศ. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ในการประเมินคุณภาพภายนอก
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติที่อ้างถึงแล้วนั้น
ได้กำหนดให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอย่างน้อย ๑ ครั้งในทุก ๕
ปี นับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
และเสนอผลการประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน
๒. หลักเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษา
ตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์
และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓
กำหนดให้การประเมินคุณภาพภายนอกครอบคลุมมาตรฐาน ๔ ด้าน ดังนี้
๑) ผลการจัดการศึกษา
๒) การบริหารจัดการสถานศึกษา
๓)
การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
๔) การประกันคุณภาพภายใน
โดยมีตัวบ่งชี้ ๑๘ ตัวบ่งชี้ ดังนี้
ด้านคุณภาพบัณฑิต
มี ๔ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑.
บัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน ๑ ปี
๒. คุณภาพของบัณฑิตปริญญาตรี โท และเอก
ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิอุดมศึกษาแห่งชาติ
๓.
ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทที่ได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่
๔.
ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกที่ได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่
ด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์
มี ๓ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑.
งานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่ได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่
๒. งานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์
๓.
ผลงานวิชาการที่ได้รับการรับรองคุณภาพ
ด้านการบริการวิชาการแก่สังคม
มี ๒ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑.
ผลการนำความรู้และประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนหรือการวิจัย
๒.
ผลการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนหรือองค์กรภายนอก
ด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
มี ๒ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑.
การส่งเสริมและสนับสนุนด้านศิลปะและวัฒนธรรม
๒.
การพัฒนาสุนทรียภาพในมิติทางศิลปะและวัฒนธรรม
ด้านการบริหารและการพัฒนาสถาบัน
มี ๓ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑.
การปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของสภาสถาบัน
๒.
การปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารสถาบัน
๓. การพัฒนาคณาจารย์
ด้านการพัฒนาและประกันคุณภาพภายใน
มี ๔ ตัวบ่งชี้ ได้แก่
๑. ผลประเมินการประกันคุณภาพภายในรับรองโดยต้นสังกัด
๒. ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณิธาน
พันธกิจ และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถาบัน
๓.
ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน
๔. ผลการชี้นำ ป้องกัน
หรือแก้ปัญหาของสังคมในด้านต่างๆ
๓. วิธีการประกันคุณภาพการศึกษา
๑. การประกันคุณภาพภายใน
เป็นกระบวนการบริหารที่สถานศึกษาทุกระดับ
ทุกแห่ง ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการวางแผน การกำหนดเป้าหมาย
และวิธีการ ลงมือทำตามแผน ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาคุณภาพ
เมื่อสถานศึกษามีการดำเนินการประกันคุณภาพภายในแล้ว จะต้องจัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน
ซึ่งเป็นผลจากการประกันคุณภาพภายใน หรือเรียกว่า รายงานการประเมินตนเอง (Self
Assessment Report: SAR) เพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด
และเปิดเผยต่อสาธารณชน
๒. การประกันคุณภาพภายนอก
เป็นการประเมินคุณภาพของการจัดการศึกษา
การติดตามและการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
ซึ่งกระทำโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)
หรือผู้ประเมินภายนอก โดยมีขั้นตอนใหญ่ๆ ๓ ขั้นตอน คือ
๑) ขั้นตอนก่อนการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา
ก่อนการตรวจเยี่ยมคณะผู้ประเมินภายนอกต้องรวบรวมข้อมูลของสถานศึกษา เช่น
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา แล้วนำมาศึกษาวิเคราะห์
และกำหนดขอบเขตของการประเมินภายนอก ต่อจากนั้น คณะผู้ประเมินภายนอกจะกำหนดนัดวัน
เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมสถานศึกษา
๒)
ขั้นตอนในระหว่างการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา เมื่อคณะผู้ประเมินภายนอกไปถึงสถานศึกษาแล้ว
ต้องมีการชี้แจงวัตถุประสงค์ ในการตรวจเยี่ยม มีการสังเกต สัมภาษณ์
และ/หรือดูเอกสารต่างๆ ของสถานศึกษา แล้วจึงวิเคราะห์สรุปข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ
และเสนอผลการตรวจเยี่ยมด้วยวาจาต่อสถานศึกษา
๓) ขั้นตอนหรือการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา
คณะผู้ประเมินภายนอกจะต้องเขียนรายงานการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา
ส่งให้สถานศึกษาตรวจสอบและโต้แย้ง และอาจมีการปรับปรุงแก้ไขรายงานให้สมบูรณ์
ก่อนที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)
จะเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น