กิจกรรมท้ายบท



1.  จุดมุ่งหมาย (Objective) การเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้  โดยเน้นที่เป้าหมายของการสอน  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมทั้ง 3 ด้าน  ได้แก่  ด้านความรู้ความคิด (ด้านพุทธิพิสัย)  ด้านเจตคติ (ด้านจิตพิสัย) คือการได้เห็นคุณค่า  เห็นความสำคัญ  และด้านทักษะ (ด้านทักษะพิสัย) คือการปฏิบัติได้ถูกต้องตามวัย
                ดังนั้น  ในการสอนจึงต้องตั้งจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทั้ง 3 ด้าน  มิใช่เพียงด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว  จึงจะถือว่าเป็นการสอนที่สมบูรณ์  ตลอดจนมุ่งให้ผู้เรียนสามารถนำประสบการณ์ใหม่ไปใช้ได้
                2. การเรียนการสอน (Learning Experience) เป็นกิจกรรมที่สำคัญในกระบวนการทางการศึกษา  เพราะเป็นการนำหลักสูตรไปใช้ปฏิบัติให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้  คุณภาพของการศึกษาจะดีหรือไม่นั้น  การสอนเป็นสำคัญซึ่งจะทำหน้าที่พัฒนาและเสริมสร้างผู้เรียนให้เกิด  การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม  และมีประสบการณ์การเรียนรู้เพิ่มขึ้น
                3. การประเมินผล (Evaluation) เป็นการติดตามผลการจัดการเรียนการสอนว่าผู้เรียนบรรลุผลมากน้อยเพียงใด  ตามธรรมชาติของผู้เรียนแต่ละคนขึ้นอยู่กับการพัฒนาทางสติปัญญาและทางร่างกาย  ซึ่งมีความแตกต่างกัน  การประเมินผลการเรียนจะเชื่อมโยงกับจุดมุ่งหมายทางการศึกษาและวิธีการเรียน  การสอน  กล่าวคือ  ผู้สอนมักจะตั้งความหวังก่อนสอนว่าต้องการจะให้ผู้เรียนรู้อะไร  เกิดพฤติกรรมอะไร  หรือทำอะไรได้บ้าง  ซึ่งความหวังนี้เรียกว่า  จุดมุ่งหมายทางการศึกษา  ซึ่งมี 3 ด้าน  คือ  พุทธิพิสัย  จิตพิสัย  และทักษะพิสัย  วิธีการวัดและประเมินผลจึงต้องเกี่ยวพันกับจุดมุ่งหมายการศึกษา
                ดังนั้นครูหรือผู้ประเมินต้องสามารถตีความหมายของจุดมุ่งหมายรายวิชานั้น ๆ ให้ถูกต้อง  ครอบคลุมและชัดเจน  จึงจะสามารถวัดและประเมินได้ตรงกับสิ่งที่ต้องการ  แต่ปัญหาที่มักพบในทางปฏิบัติ  คือ จากจุดมุ่งหมายของรายวิชาเดียวกัน  ครูผู้สอนแต่ละคนมักจะตีความต่างกันไป  โดยเฉพาะในแง่ของขอบข่าย  อันส่งผลให้การดำเนินการสอนและการสอบวัดในประเด็นที่แตกต่างกันไป

การบริหารจัดการห้องเรียน
สาระความรู     : 1) ทฤษฎีและหลักการบริหารจัดการ
                      2) ภาวะผูนําทางการศึกษา
                            3) การคิดอยางเปนระบบ
                            4) การเรียนรูวัฒนธรรมองคกร
                            5) มนุษยสัมพันธ์ในองคกร
                            6) การติดตอสื่อสารในองคกร
                            7) การบริหารจัดการชั้นเรียน
                            8) การประกันคุณภาพการศึกษา
                            9) การทํางานเปนทีม
                          10) การจัดทําโครงงานทางวิชาการ
                          11) การจัดโครงการฝกอาชีพ
                          12) การจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนา
                          13) การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ
                          14) การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน

สมรรถนะ        : 1) มีภาวะผูนํา
                           2) สามารถบริหารจัดการในชั้นเรียน
                           3) สามารถสื่อสารไดอยางมีคุณภาพ
                           4) สามารถในการประสานประโยชน
                           5) สามารถนํานวัตกรรมใหมๆ มาใชในการบริหารจัดการ 

ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556 เพิ่มมาตรฐานวิชาชีพครูเป็น 11 มาตรฐาน (จากเดิมมีเพียง 9 มาตรฐาน) โดยเพิ่ม 2 มาตรฐาน  เพิ่มมาตรฐาน ปรัชญาการศึกษา” , “คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณและได้จัดให้มาตรฐาน การจัดการเรียนรู้และ การบริหารจัดการในห้องเรียนจากเดิมที่แยกเป็น 2 มาตรฐาน รวมไว้ด้วยกันเป็น 1 มาตรฐาน และเปลี่ยนแปลงบางมาตรฐานเช่น เดิม มาตรฐานภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู ก็เปลี่ยนเป็น ภาษาและวัฒนธรรมแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น